วันพุธที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ตัว ตอ.เลาะชิม ตอน โคขุนโพงยางคำ ร้านโคขุนคุณทอง สกลนคร


ร้านโคขุนคุณทอง สกลนคร เป็นร้านอาหารที่ฉีกแนวร้านอาหารในแถบจังหวัดสกลนครเลยก็ว่าได้ ครับ  นอกจากมีอาหารหลากหลายเมนู และวยังมีร้านกาแฟ มีไอติมอร่อยๆ ไว้บริการ ที่พิเศษอย่างมาก คือ บรรยากาศของร้านเขาจัดเป็นลักษณะฟาร์ม มีแกะ ขาวดำ มากมายหลายตัว มีคลองน้ำเห็นปลาแหวกว่าย พร้อมทั้งยังมี หุ่นตัวแกะไว้ให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปได้เก็บภาพความประทับใจได้อีกด้วยครับ   การเดินทาง ห่างจากเมืองสกลนคร นิดเดียวทางไป อำเภอนาแก.จ.นครพนม คัรบ..






วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

นครพนม เมืองงาม



นครพนม
Nakhon Phanom
พระธาตุพนมค่าล้ำ วัฒนธรรมหลากหลาย เรณูผู้ไท เรือไฟโสภา งามตาฝั่งโขง

             นครพนม เมืองนครพนม เดิมเป็นที่ตั้งของอาณาจักรศรีโคตรบูร ตั้งอยู่ทางฝั่งลาว ตรงข้ามกับพระธาตุพนมในปัจจุบัน  ตามประวัติได้มีการโยกย้ายเมืองหลายครั้ง โดยครั้งหนึ่งได้ย้ายมาฝั่งตรงข้าม เรียกชื่อเมืองใหม่นี้ว่า “มรุกขนคร” หมายถึงเมืองที่อยู่ในดงไม้รวก เมื่อ พ.ศ. 500 นั้นรุ่งเรืองมาก มีเมืองขึ้นมากมายและมีการบูรณะพระธาตุพนมขึ้นเป็นครั้งแรก แม้ว่าจะมีการโยกย้ายอีกหลายครั้ง เช่น พ.ศ. 2321 ในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้มีการย้ายเมืองไปตั้งที่บ้านหนองจันทร์ห่างขึ้นไปทางทิศเหนือ 52 กิโลเมตร จนถึง พ.ศ. 2333 เมื่อผู้ครองเมืองนครถึงแก่พิราลัย เมืองได้ขอขึ้นตรงต่อกรุงเทพมหานคร โดยรัชกาลที่ 1 พระราชทานนามให้ใหม่ว่า “นครพนม” ชื่อนั้นมีข้อสันนิษฐานว่าเคยเป็นเมืองลูกหลวงมาก่อนและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์จึงได้ใช้คำว่า “นคร” ส่วนคำว่า “พนม” ก็มาจากพระธาตุพนมปูชนียสถานที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองมาช้านาน บ้างก็ว่ามรุกขนครเดิมที่อยู่ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขงตั้งอยู่ในบริเวณที่มีภูเขาสลับซับซ้อนจึงนำคำว่า “พนม” ซึ่งแปลว่าภูเขามาใช้ ส่วนคำว่า “นคร” ก็เป็นการดำรงชื่อเมืองไว้คือ เมืองมรุกขนคร นครพนมจึงหมายถึง “ เมืองแห่งภูเขา” นั่นเอง 

                 จังหวัดนครพนมมีพื้นที่ประมาณ 5,512 ตางรางกิโลเมตร ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 740 กิโลเมตร แบ่งการปกครองออกเป็น 12 อำเภอ  คือ อำเภอเมืองนครพนม ธาตุพนม นาแก  ท่าอุเทน  เรณูนคร  บ้านแพง  ปลาปาก  ศรีสงคราม  นาหว้า โพนสวรรค์  นาทม  และวังยาง 





อาณาเขต
                 ทิศเหนือ                  ติดต่อกับ อำเภอเซกา จ.หนองคาย
                 ทิศใต้                      ติดต่อกับ อำเภอดงหลวง อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร
                 ทิศตะวันออก         ติดต่อกับเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว โดยมีแม่น้ำโขงเป็นเส้นกั้นพรมแดน
                 ทิศตะวันตก           ติดต่อกับ อำเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร
 การเดินทาง
             รถยนต์  จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน ถึงสระบุรี บริเวณ กิโลเมตรที่ 107 แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ ผ่าน จังหวัดนครราชสีมา ถึง อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 23 ผ่านจังหวัดมหาสารคาม ทางหลวงหมายเลข 213 แยกขวาเข้าสู่ จังหวัดกาฬสินธุ์และผ่าน จังหวัดสกลนคร ตรงเข้าสู่ จังหวัดนครพนม ตามทางหลวงหมายเลข 22 รวมระยะทางประมาณ 740 กิโลเมตร



                 รถโดยสารประจำทาง บริษัท ขนส่ง จำกัด เส้นทาง กรุงเทพฯ-นครพนม มีรถโดยสารปรับอากาศ ออกจากสถานีขนส่งหมอชิต 2 ทุกวัน ติดต่อสอบถามที่ บริษัท ขนส่ง กรุงเทพฯ โทร.0 2936 0657 /บริษัท ขนส่งนครพนม โทร.0 4251 1403 สำหรับ บริษัทของเอกชน ติดต่อ บริษัท แสงประทีปเดินรถ โทร.0 4252 0411 บริษัท ชัยสิทธิ์ โทร.0 4252 0561 และบริษัท เชิดชัยทัวร์ โทร.0 4251 2098
                 การเดินทางในตัวเมือง ยังไม่มีรถโดยสารประจำทางหรือรถสองแถว มีเพียงรถสามล้อเครื่อง (สกายแล็บ) ราคาแล้วแต่จะตกลงกัน ส่วนใหญ่จะเริ่มตั้งแต่ราคา 20 - 60 บาท




                     เครื่องบิน สายการบินนกแอร์  เปิดบริการเที่ยวบินจากสนามบินดอนเมือง ไปจังหวัดนครพนม ทุกวัน สอบถามรายละเอียด โทร. 0 4253 1525 หรือ (1318)  สายการบินแอร์เอเชีย  เปิดบริการเที่ยวบินจากสนามบินดอนเมือง ไปจังหวัดนครพนม ทุกวัน  โทร. 0 4258 7212 หรือ 0 2515 9999

                 การเดินทางจากสนามบิน เข้ามาในตัวเมืองนครพนม มีรถตู้ให้บริการที่สนามบินเข้าตัวเมืองนครพนม ค่าโดยสาร คนละ 100 บาท  ติดต่อสอบถาม บริษัท นครโคราช โทร. 0 4252 2222 หรือ 08 1872 1215




ระยะทางจากตัวเมืองนครพนมไปยังอำเภอต่าง ๆ
                 ท่าอุเทน                    26        กิโลเมตร
                 ปลาปาก                   44        กิโลเมตร
                โพนสวรรค์                 45        กิโลเมตร
                 เรณูนคร                    51        กิโลเมตร
                 ธาตุพนม                  52        กิโลเมตร
                 ศรีสงคราม               67        กิโลเมตร
                 นาแก                      78        กิโลเมตร
                 วังยาง                      80        กิโลเมตร
                 บ้านแพง                   93        กิโลเมตร
                 นาหว้า                      93        กิโลเมตร
                 นาทม                        130     กิโลเมตร

ระยะทางจากจังหวัดนครพนมไปยังจังหวัดใกล้เคียง
             สกลนคร                      93    กิโลเมตร
             มุกดาหาร                   104    กิโลเมตร
             อุบลราชธานี               271     กิโลเมตร
             ขอนแก่น                    298     กิโลเมตร

                 หนองคาย                   303   กิโลเมตร


สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
 
อำเภอเมืองนครพนม

                 วัดโอกาสศรีบัวบาน ตั้งอยู่บนถนนสุนทรวิจิตร ตรงข้ามด่านท่าเรือนครพนม-คำม่วน เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองมาแต่โบราณ บริเวณกลางวัดจะมีหอประดิษฐานพระติ้วกับพระเทียมอยู่คู่กัน พระติ้ว เป็นพระพุทธรูปปางเพชรมารวิชัย ทำด้วยไม้ติ้วบุทองคำ ขนาดหน้าตักกว้าง 30 ซม. สูง 60 ซม.  สร้างโดยเจ้าผู้ครองนครศรีโคตรบูร เมื่อ พ.ศ. 1328 ส่วน พระเทียม มีลักษณะและขนาดเดียวกับพระติ้ว สร้างในสมัยพระเจ้าขัติยวงศา ปัจจุบันได้นำ พระแทน มาประดิษฐานแทนที่ พระเทียม



                 วัดศรีเทพประดิษฐาราม ตั้งอยู่บนถนนศรีเทพ เยื้องโรงเรียนชุมชนเทศบาล 3 สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2402 ภายในโบสถ์มีจิตรกรรมฝาผนังรูปพุทธประวัติ เป็นที่ประดิษฐานของ พระแสง ซึ่งตามตำนานเล่าว่าสร้างขึ้นพร้อมกับ พระศุกร์ พระเสริม และหลวงพ่อพระใส (วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคาย) ข้างๆ โบสถ์มีเจดีย์บรรจุอัฐิ และพิพิธภัณฑ์ หลวงปู่จันทร์ เขมมิโย (พระเทพสิทธาจารย์)  พระเกจิอาจารย์ที่ชาวนครพนมเคารพนับถือ และที่น่าชมอีกอย่างหนึ่งคือ อาคารที่สร้างขึ้นใน พ.ศ.2464 ซึ่งได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปะสถาปัตยกรรมในด้านปูชนียสถานและวัดวาอาราม จากสมาคมสถาปนิกสยามฯ



                 วัดมหาธาตุ  ตั้งอยู่บนถนนสุนทรวิจิตร วัดมหาธาตุสร้างในปี พ.ศ.1150 โดยพระยามหาอำมาตย์ (ป้อม) แม่ทัพใหญ่ที่มาจากเวียงจันทน์ มีพระธาตุนครลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้างประมาณ 5.85 เมตร สูงประมาณ 24 เมตร เป็นปูชนียสถานสำคัญประดิษฐานอยู่ซึ่งเป็นพระธาตุประจำวันเกิดผู้ที่เกิดวันเสาร์ เชื่อกันว่าผู้ที่มานมัสการพระธาตุแห่งนี้ จะได้รับอานิสงส์เสริมบารมีและมีอำนาจวาสนาเป็นเจ้าคนนายคนและยังมีโบสถ์เก่าแก่สวยงามมาก 



                 วัดนักบุญอันนา หนองแสง ตั้งอยู่บนถนนสุนทรวิจิตร  เลียบเขื่อนหน้าเมืองนครพนม สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1926 (พ.ศ. 2469) โดยคุณพ่อเอทัวร์ นำลาภ อธิการโบสถ์ วัดนักบุญอันนาเป็นสัญลักษณ์แสดงความเป็นเมืองที่มีคนหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่ เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามแปลกตา ในช่วงก่อนวันคริสต์มาส ชาวคริสต์แต่ละชุมชนจะประดิษฐ์ดาวรูปแบบต่าง ๆ แล้วแห่มารวมกันไว้ที่นี่



                 วัดโพธิ์ศรี  ตั้งอยู่บนถนนสุนทรวิจิตร เลียบริมแม่น้ำโขง ภายในกุฏิเจ้าอาวาสเป็นที่ประดิษฐานพระทอง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทองสำริด ปางมารวิชัย ที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นพระพุทธรูปโบราณสกุลช่างล้านช้าง ตรงกับสมัยอยุธยาตอนต้น  ปัจจุบันทุก 15 ค่ำ เดือนหกจะนิมนต์มาตั้งไว้ที่หน้าโบสถ์ให้ชาวบ้านมาสรงน้ำ และทุกๆปีของวันออกพรรษา ชาวบ้านห้อมจะมาทอดปราสาทผึ้งที่วัดนี้


             สวนหลวง ร.๙ จังหวัดนครพนม  ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองนครพนมทางด้านทิศเหนือ (ถนนนครพนม-ท่าอุเทน) ใกล้หน่วยเรือ  นรข. สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชสักการะ เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เป็นสวนสาธารณะที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน



             เขื่อนหน้าเมืองนครพนม ตั้งอยู่บนถนนสุนทรวิจิตร เลียบริมแม่น้ำโขง เป็นสถานที่พักผ่อนของชาวเมืองนครพนม และเป็นจุดชมทิวทัศน์พระอาทิตย์ขึ้นพระอาทิตย์ตกที่สวยงามริมแม่น้ำโขง บริเวณเขื่อนหน้าเมืองนครพนมนี้อยู่ตรงข้ามกับเมืองท่าแขก  แขวงคำม่วน  สปป.ลาว



                 หาดทรายทองศรีโคตรบูร ตั้งอยู่บนถนนสุนทรวิจิตร เลียบริมแม่น้ำโขง เป็นหาดทรายน้ำจืดที่สวยงามมากแห่งหนึ่งในภาคอีสาน ในฤดูแล้ง (ราวเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม) หาดทรายจะยื่นออกไปกลางลำน้ำโขง หาดทรายนี้จะอยู่ตรงข้ามกับแผนกท่องเที่ยวแขวงคำม่วน สปป.ลาว 






             พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าฯ ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ถนนสุนทรวิจิตร ทางด้านทิศเหนือ เป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก ได้รับอิทธิพลการก่อสร้างจากฝรั่งเศสช่วงสมัยสงครามอินโดจีน มีอายุเก่าแก่มากแต่ ภายในจัดแสดงเกี่ยวกับเรื่องราวของจังหวัดนครพนม ตั้งแต่ อดีต ถึง ปัจจุบัน รวมถึงประเพณีไหลเรือไฟหนึ่งเดียวของประเทศไทยด้วย  เปิดบริการให้นักท่องเที่ยวเข้าชม   วันพุธ–อาทิตย์  (เวลา  09.00 น.- 17.00 น.)  โทร.0 4251 1574 หรือ 08 5853 8503




                 ล่องเรือสำราญ@แม่น้ำโขงนครพนม  ท่าเรือตั้งอยู่เขื่อนริมแม่น้ำโขงของลานกันเกรา หน้าตลาดอินโดจีน ถนนสุนทรวิจิตร เป็นกิจกรรมหนึ่งที่นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมบรรยากาศความงดงามของ 2 ฝั่งแม่น้ำโขง เรือจะเริ่มล่องออกจากฝั่งหน้าตลาดอินโดจีนไปทางทิศเหนือ ผ่านหอนาฬิกา ชุมชนเมืองเก่า ชมทิวทัศน์ ทิวเขาฝั่งลาว จนถึงวัดนักบุญอันนา จากนั้นวนกลับเลาะริมฝั่งลาว ผ่าน ด่าน ตม.ลาว โรงแรมริเวอร์เรีย  โรงแรมแม่น้ำโขง  และแผนกท่องเที่ยวแขวงคำม่วน  ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง  ค่าโดยสาร คนละ  50  บาท หรือเหมาลำ  1,000 บาท รับผู้โดยสารได้ประมาณ 60 คน ติดต่อสอบถามได้ที่ เทศบาลเมืองนครพนม โทร. 0 4251 1535, 08 1392 1251





          หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์  ตั้งอยู่บนถนนสุนทรวิจิตร เป็นสิ่งที่ชาวเวียดนามสร้างไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ชาวนครพนม เมื่อคราวย้ายกลับปิตุภูมิประเทศเวียดนาม สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2503 สูงประมาณ 50 เมตร






            ถนนคนเดินนครพนม  ตั้งอยู่บริเวณชุมชนย่านหอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์  ถนนสุนทรวิจิตร นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสวิถีชีวิตชาวเมืองนครพนม  เลือกซื้อสินค้า เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ อาหาร และถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ณ ลานคนเมืองนครพนม เปิดทุกวันศุกร์และเสาร์ ตั้งแต่เวลา 17.30 น. 





หมู่บ้านมิตรภาพไทย-เวียดนาม บ้านนาจอก ตั้งอยู่ที่ 32 หมู่ 5 หมู่บ้านหนองญาติ ตำบลหนองญาติ ห่างจากตัวเมืองนครพนม 5 กิโลเมตร ตามเส้นทางหมายเลข 22 เส้นนครพนม-สกลนคร ตรงหลักกิโลเมตรที่ 238 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าบ้านนาจอกประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่นายโฮจิมินห์ อดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ได้เคยเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อกอบกู้เอกราชของเวียดนาม ระหว่างปี พ.ศ.2467 – 2474 หมู่บ้านนี้จะปลูกต้นไม้รอบบ้านอย่างร่มรื่น เช่น ต้นหมาก พลู กล้วย ใบชาและมะเฟือง ติดต่อสอบถามโทร.0 4252 2430  นอกจากนี้ยังมี พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านมิตรภาพไทย–เวียดนาม” จัดนิทรรศการการแสดงประวัติการทำงานและการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ของท่านโฮจิมินห์ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสชีวิตของชุมชนชาวไ/ทยเชื้อสายเวียดนามได้ที่ “นาจอกโฮมสเตย์” ติดต่อสอบถาม นางสมจิตร อรรถวรวินิจ โทร. 08 9713 0261



สถานที่จัดแสดงโลกของปลาแม่น้ำโขง  ตั้งอยู่ ตำบลหนองญาติ ห่างจากตัวเมืองนครพนม ประมาณ 15 กิโลเมตร ตรงข้ามสำนักงานประมงจังหวัดนครพนม เป็นแหล่งรวมพันธ์พันธ์ปลาน้ำจืดของลุ่มน้ำโขง และแม่น้ำสงคราม เปิดบริการ วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00-17.00 น. และวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 10.00 – 18.00 น.  ติดต่อสอบถามได้ที่ เทศบาลเมืองนครพนม โทร.0 4251 5312, 0 4251 1535 


                  สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3    ตั้งอยู่ บ้านห้อม ตำบลอาจสามารถ ห่างจากตัวเมือง 11 กิโลเมตร อยู่ตรงข้ามบ้านเวินใต้ เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว  สะพานยาว 1,423 เมตร กว้าง 13 เมตร มีอาคารด่านควบคุมการผ่านแดนทั้งสองฝั่ง เป็นดั่งประตูเมืองที่จะแสดงให้เห็นถึงศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่น ซึ่งอาคารฝั่งไทยได้อันเชิญสัญลักษณ์ พระธาตุพนม มาประดิษฐานไว้ส่วนบนสุดของอาคารสะท้อนเอกลักษณ์พื้นถิ่นซึ่งมีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมแบบล้านช้าง บริเวณใต้สะพานยังเป็นที่พักผ่อนและจุดชมทิวทัศน์ทิวเขาฝั่งลาว นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไปเที่ยวที่เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน  สปป.ลาว   สามารถเดินทางต่อไปยังประเทศเวียดนามตามถนนเส้นทางหมายเลข 12 นี้ได้ (เข้าสู่เมืองวินห์)  และหมายเลข 8 (เข้าสู่เมืองกวางบิงห์)  สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม


            ไทยแสกโฮมสเตย์  ตั้งอยู่ 104 หมู่ 5 หมู่บ้านอาจสามารถ ตำบลอาจสามารถ อยู่ห่างจากตัวเมืองนครพนมตรงหลักกิโลเมตรที่ 4 ถนนหมายเลข 212 (ถนนนครพนม-ท่าอุเทน) หมู่บ้านวัฒนธรรมชนเผ่าไทยแสกบ้านอาจสามารถ เป็นชนกลุ่มพื้นเมืองที่มีภาษาพูดเป็นของตนเอง แต่ไม่มีภาษาเขียน วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ คือ ภาษา การแต่งกาย อาหาร ความเชื่อและพิธีกรรมการละเล่นฯ “แสกเต้นสาก” อาหารพื้นบ้าน ได้แก่ ก้อยปลาอิตุ๊ หลามปลาเพาะ ปลานึ่งห่อใบยอ ลาบเตี้ย แจ่วปลาเพาะ เอ๊าะปลาเพาะ ซุปหน่อไม้ แจ่วมะเขือเครือ แกงหยวก แกงหมากมี่ ทอดปลาส้ม สั่วไก่ ก้อยไข่มดแดง สินค้าของที่ระลึกคือ ตุ๊กตาพื้นเมือง 7 ชนเผ่า เครื่องจักรสาน ผ้าทอสีธรรมชาติ ศึกษาดูงานติดต่อสอบถามประธานกลุ่มโฮมสเตย์ คุณพุทธพันธ์ โทร.08 4517 5905


อำเภอท่าอุเทน


                 พระธาตุท่าอุเทน  พระธาตุประจำผู้ที่เกิดวันศุกร์ อยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง  ใกล้กับที่ว่าการอำเภอท่าอุเทน องค์พระธาตุก่ออิฐถือปูนเป็นผังรูปสี่เหลี่ยมคล้ายพระธาตุพนม  สร้างเป็น 3 ชั้น ชั้นแรกเป็นอุโมงค์บรรจุของมีค่าต่าง ๆ ชั้นที่ 2 สร้างครอบอุโมงค์ ชั้นที่ 3 คือ เจดีย์องค์ใหญ่ สูงประมาณ 15 เมตร พระอาจารย์ศรีทัตถ์เป็นผู้สร้าง เมื่อปี พ.ศ.2454 พระธาตุนี้เป็นศิลปกรรมและปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งองค์หนึ่ง บรรจุพระธาตุของพระอรหันต์ ซึ่งได้อัญเชิญมาจากเมืองย่างกุ้ง มีการจัดงานนมัสการพระธาตุในวันขึ้น 13 ค่ำ ถึงแรม 1 ค่ำ เดือน 4 ของทุกปี ผลจากการนมัสการมีอานิสงส์ให้ชีวิตมีแต่ความรุ่งโรจน์เปรียบเสมือนพระอาทิตย์ขึ้นยามรุ่งอรุณ การเดินทาง จากตัวเมืองนครพนมไปตามทางหลวงหมายเลข 212 เส้นทางนครพนม – บ้านแพง ห่างจากตัวเมืองนครพนมประมาณ 26 กิโลเมตร 













พระบางวัดไตรภูมิ   ประดิษฐานอยู่ที่วัดไตรภูมิ หน้าเขื่อนริมโขง ตำบลท่าอุเทน เป็นพระพุทธรูปยืนปางห้ามสมุทร พุทธศิลปะแบบลาว สูง 80 นิ้ว ประดิษฐานอยู่บนฐานรูป 8 เหลี่ยม สูง 15 นิ้ว รองรับด้วยรูปช้าง 8 เชือก  สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2008 เชื่อกันว่าถ้านำออกมาแห่จะทำให้ฝนตก  




                 แหล่งเรียนรู้รอยเท้าไดโนเสาร์  ตั้งอยู่ที่ห้วยด่านชุม ริมทางหลวงหมายเลข 212  ชยางกูร  ท่าอุเทน-บ้านแพง กิโลเมตรที่ 257 พื้นที่ถูกค้นพบเมื่อ ปี พ.ศ. 2547 เป็นรอยเท้าไดโนเสาร์ขนาดเล็ก กลุ่มออนิโธมิโนซอร์ ลักษณะคอเรียวเล็กยาว เดินด้วยสองขา มีนิ้วเท้าสามนิ้วคล้ายนกกระจอกเทศ และยังมีรอยอิกัวโนดอน (Iguanodon) รวมทั้งรอยเท้าจระเข้ขนาดเล็กอายุประมาณ 100 ล้านปี เกือบ 200 รอย สอบถามข้อมูลได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลพนอม อำเภอท่าอุเทน โทร.0 4253 8481



กลุ่มสหกรณ์ปั้นดินเผาบ้านโนนตาล  ตั้งอยู่ที่ หมู่ 1 บ้านกลาง ตำบลโนนตาล อำเภอท่าอุเทน ห่างจากตัวจังหวัด 33 กิโลเมตร มีหนองกุดค้าว พื้นที่ ๆ มีบ่อดินเหนียวแห่งเดียวใน จังหวัดนครพนม มีการทำเครื่องปั้นดินเผาอันเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีการสืบทอดต่อกันมาราว 150 ปี และได้เริ่มก่อตั้งกลุ่มปั้นดินเผาขึ้นตามแนวทางโครงการ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ เมื่อปี พ.ศ. 2544 สมัยก่อนจะใช้วิธีทุบ ร่อนดิน และนวดด้วยเท้า แต่ปัจจุบันมีการประดิษฐ์เครื่องมือเพื่อช่วยประหยัดเวลามากขึ้น แต่ยังคงใช้มือช่วยในการขึ้นทรงของผลิตภัณฑ์บางแบบ การผลิตสามารถทำได้ทั้งปี โดยเฉพาะช่วงมกราคม-เมษายน อากาศแห้งสะดวกต่อการผลิตมากที่สุด สามารถเยี่ยมชมกระบวนการผลิตและแลกเปลี่ยนความรู้ของภูมิปัญญาท้องถิ่นได้ที่ คุณพิเชษฐ์ จิตปัญญา ประธานกลุ่มฯ 08 6148 4613 และคุณดวงมณี เดชสอน ที่ปรึกษากลุ่มฯ 08 1450 9119

(ภาพ รอการจัดการ)






บ้านไชยบุรี เมืองท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์   

             “วันเดียวเที่ยว 7 วัด” มีรถนำเที่ยวพร้อมมัคคุเทศก์บรรยาย โดยเริ่มจาก วัดศรีสุนันทามหาอาราม วัดมหาอุตมะนันทะอาราม วัดศรีบุญเรือง วัดยอดแก้ว วัดป่านิเวศน์ แวะชื่นชมพระบารมีตามรอยเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมค่ายตำรวจตระเวนชายแดน (หมวดมวลชนสัมพันธ์) ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าราชินีนาถ ชมบ่อน้ำโบราณอายุ 100 ปี ต่อด้วยวัดโพธิ์ชัย สิ้นสุดที่วัดไตรภูมิ
             “จุดชมวิวแม่น้ำสองสีณ ปากแม่น้ำสงคราม มีอาคารบรรยายประวัติความเป็นมา วิถีชีวิตคนกับสายน้ำและจำหน่ายสินค้าของที่ระลึกของชุมชน ได้แก่ ส้มปลาชะโด  ปลายอ หนังปลาทอด  ติดต่อสอบถามได้ที่ คุณพิชัย เสนจันทร์ฒิไชย โทร.08 1974 1830
                 การเดินทาง จากตัวเมืองนครพนมไปตามทางหลวงหมายเลข 212 เส้นทางนครพนม – บ้านแพง ข้ามสะพานแม่น้ำสงครามแล้วเลี้ยวขวา ห่างจากตัวเมืองนครพนมประมาณ 28 กิโลเมตร

*******************************


อำเภอศรีสงคราม
                 ศูนย์การเรียนรู้วิถีชีวิตชาวประมงลุ่มแม่น้ำศรีสงคราม บ้านปากยาม ตั้งอยู่ บ้านปากยาม ตำบลสามผง อำเภอศรีสงคราม การทำประมงในแม่น้ำสงครามเป็นอาชีพหลักของชาวบ้านปากยาม องค์ความรู้ในการประมงที่สั่งสมและสืบทอดมาจากบรรพบุรุษเป็นภูมิปัญญาที่มีเอกลักษณ์อันโดดเด่น การถ่ายทอดเรื่องราวโดยการนำเสนอภูมิปัญญาเพื่อปลุกจิตสำนึกในคุณค่าและความสำคัญของท้องถิ่น โดยจัดแสดงเรื่องราวผ่านชีวิตจริงของผู้คนตามบ้านเรือนหรือสถานที่สำคัญในชุมชน เช่น ชีวิตพรานปลา ชีวิตนายฮ้อยเรือกระแซง การทำปลาร้า พ่อค้าปลา การผลิตและใช้เครื่องมือจับปลา สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในชุมชน เป็นต้น 
สอบถามข้อมูลได้ที่ คุณสุริยา โคตะมี โทร.08 1263 7977

บ้านท่าบ่อสงคราม ตั้งอยู่ ตำบลท่าบ่อสงคราม อำเภอศรีสงคราม สัมผัสวิถีชีวิตคนลุ่มน้ำสงครามตอนล่าง เที่ยวชมหมู่บ้านประมงริมแม่น้ำสงคราม ด้วยการล่องเรือดูวิถีชีวิต หาปลา ทานปลา การศึกษาพืชพันธุ์ตามธรรมชาติ รวมไปถึงเรียนรู้วัฒนธรรมปลาแดก (ปลาร้า) ส้มฟัก ปลาส้ม อันเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพดีของกลุ่มแม่บ้านท่าบ่อสงคราม ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณอึ่ง โทร.08 7215 1358
                 การเดินทาง วิ่งไปตามทางหลวง 212 จนถึงป้ายบอกทางอำเภอศรีสงคราม เบี่ยงซ้ายเข้าสู่เส้น 2032
เลี้ยวซ้ายเข้าสู่เส้น 2132 เลี้ยวขวาที่ 2 เข้าสู่เส้น 2177 ห่างจากตัวเมืองประมาณ 95 กิโลเมตร


***************************************
บรรยากาศบนยอดภูลังกา นครพนม

อำเภอบ้านแพง
             อุทยานแห่งชาติภูลังกา   อุทยานแห่งชาติครอบคลุมพื้นที่ของ ตำบลไผล้อม อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนมและ อำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย มีเนื้อที่ประมาณ 31,250 ไร่ มีลักษณะเป็นภูเขาทับซ้อนกัน 3 ลูก สลับด้วยเทือกเขาขนาดเล็กสลับซับซ้อนทอดยาวตามแนวลำน้ำโขง สภาพโดยทั่วไปเป็นป่าดงดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณและป่าเต็งรังที่สมบูรณ์มีสัตว์ป่าชุกชุม เป็นต้นกำเนิดของน้ำตก และลำธารน้อยใหญ่หลายสาย ช่วงฤดูท่องเที่ยวระหว่างเดือนพฤษภาคม - กันยายน เป็นช่วงที่มีดอกไม้ กล้วยไม้ป่าและรองเท้านารีบานสะพรั่ง  บนยอดภูลังกา   













น้ำตกตาดขาม  เป็นน้ำตกที่ไหลเป็นชั้น ๆ จำนวน 4 ชั้น  เฉพาะชั้นสุดท้ายจะมีแอ่งน้ำขังตลอดปี สภาพโดยรอบร่มรื่น และมีลานหินเล็ก ๆ เหมาะสำหรับพักผ่อน รถยนต์สามารถเข้าถึงได้


             น้ำตกตาดโพธิ์  มีกำเนิดจากเทือกเขาภูลังกา เป็นน้ำตกที่ไหลเป็นชั้นจำนวน 4 ชั้น แต่ละชั้นสูงไม่น้อยกว่า 10 เมตร ชั้นที่ 2 สูงถึง 30 เมตร  การเดินทาง ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 212 จากนครพนมแล้วเลี้ยวซ้ายบริเวณกิโลเมตรที่ 214 เข้าไปประมาณ 3 กิโลเมตร ห่างจากน้ำตกตาดขาม ประมาณ 4 กิโลเมตร




             ทางอุทยานฯ มี เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ภูลังกา 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางแรก เส้นทางสายน้ำตกตาดโพธิ์ - ถ้ำยา ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง เส้นทางที่สอง เส้นทางสายน้ำตกตาดโพธิ์ - ผางอย ระยะทาง 1.8 กิโลเมตร ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 1.30 – 2.00 ชั่วโมง จุดเด่นของเส้นนี้คือ บนผางอย สามารถชมวิวของพื้นที่อำเภอบ้านแพง และสายน้ำโขงได้ และ เส้นทางที่สาม เส้นน้ำตกตาดโพธิ์-เจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์ ใช้ระยะเวลา 2 วัน 1 คืน เส้นนี้นักท่องเที่ยวควรเตรียมเต็นท์และเครื่องนอนมาด้วย ส่วนอาหารสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางเพื่อที่จะเตรียมอาหารไว้ให้ จุดเด่นของเส้นนี้คือจะได้ชมดอกไม้ป่า กล้วยไม้ป่า ผีเสื้อ และนกหลายชนิด บนยอดภูลังกายังมี เจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์ มีลักษณะเป็นลานหินคล้ายกองข้าวนำมากองไว้ และเป็นจุดพิชิตยอดภูลังกาอีกด้วย และยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม  (สำหรับนักท่องเที่ยวที่ขึ้นยอดภูลังกาต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทาง และลูกหาบ ที่ที่ทำการอุทยานฯ ล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน)
             สถานที่พัก  อุทยานฯ ภูลังกา มีเต็นท์ไว้สำหรับนักท่องเที่ยว พักได้ 2 - 6 คน และมีสถานที่กางเต็นท์ไว้สำหรับนักท่องเที่ยวที่นำเต็นท์มาเอง ติดต่อสอบถาม โทร.08 3348 2548, 08 4957 1155


ภาพ เจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์...โดย อัครเดชา ฮวดคันทะ



             การเดินทาง รถยนต์ จากตัวเมืองนครพนมใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 212 เส้นนครพนม-บ้านแพง ระยะทางประมาณ 105  กิโลเมตรและเลี้ยวซ้ายบริเวณกิโลเมตรที่ 220 ห่างจากตัว อำเภอบ้านแพงประมาณ 6 กิโลเมตร รถโดยสารประจำทาง  มีรถออกจากสถานีขนส่งหมอชิต 2 ถนนกำแพงเพชร  สายกรุงเทพฯ-บ้านแพง มาลงที่ตัวอำเภอบ้านแพงแล้วนั่งรถมอเตอร์ไซต์รับจ้างมาที่อุทยานฯ ภูลังกา

อำเภอธาตุพนม







             พระธาตุพนม  เป็นพระธาตุประจำผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ และผู้ที่เกิดปีวอก ประดิษฐาน ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ผลจากการขุดค้นทางโบราณคดีลงความเห็นว่าพระธาตุพนมสร้างขึ้นระหว่าง พ.ศ.1200 – 1400 ตามตำนานกล่าวว่าผู้สร้างคือ พระมหากัสสปะ พระอรหันต์ 500 องค์ และท้าวพระยาเมืองต่าง ๆ ภายในองค์พระธาตุบรรจุพระอุรังคธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้ ลักษณะของสถาปัตยกรรมมีแหล่งที่มาที่เดียวกันกับปราสาทของขอม และได้ทำการบูรณะเรื่อยมา ในปี พ.ศ.2485 ได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกขึ้นเป็น “วรมหาวิหาร”
             พระธาตุพนมไม่เพียงเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวนครพนมเท่านั้น พระธาตุพนมยังเป็นที่เคารพของชาวไทยภาคอื่น ๆ และชาวลาวอีกด้วย ว่ากันว่าถ้าใครได้มานมัสการพระธาตุครบ 7 ครั้ง จะถือว่าเป็น “ลูกพระธาตุ” เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและจะมีความเจริญรุ่งเรือง หรือแม้แต่การได้มากราบพระธาตุพนม 1 ครั้ง ก็ถือเป็นมงคลแก่ชีวิตแล้ว

                 ในวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2518 เวลา 19.38 น. พระธาตุพนมได้ล้มทลายลงทั้งองค์ เนื่องจากความเก่าแก่ขององค์พระธาตุพนมและประจวบกับระหว่างนั้นฝนตกพายุพัดแรงติดต่อกันมาหลายวัน ประชาชนทั้งประเทศได้ร่วมบริจาคทุนทรัพย์และรัฐบาลได้ก่อสร้างองค์พระธาตุขึ้นใหม่ตามแบบเดิม การก่อสร้างนี้เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ.2522 นอกจากพระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุในองค์พระธาตุแล้ว ยังมีของมีค่ามากมายนับหมื่นชิ้น โดยเฉพาะฉัตรทองคำบนยอดพระธาตุเป็นฉัตรทองคำที่มีน้ำหนักถึง 110 กิโลกรัม ปัจจุบันองค์พระธาตุมีฐานกว้างด้านละ 12.33 เมตร สูง 53.60 เมตร เป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมสูงแลดูสง่างาม งานนมัสการองค์พระธาตุเริ่มตั้งแต่วันขึ้น 10 ค่ำ เดือน 3 ถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี  การเดินทาง ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 53 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 212  นครพนม-มุกดาหาร หรือจากสถานีขนส่งใน อำเภอเมือง มีรถปรับอากาศ รถธรรมดา และรถตู้ปรับอากาศ (นครพนม-มุกดาหาร) ไปยังวัดพระธาตุพนม